ห้องภาพกิจกรรม

คณบดีคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ร่วมเป็นพยาน ลงนาม MOU สสส. เสริมงานภาคีเครือข่ายสุขภาวะภาคอีสาน สู่การต่อยอดงานวิจัยในอนาคต

  • 25 กรกฎาคม 2566
  • 03:54:07
  • 780

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2566 เวลา 13.30-15.00 น. ณ ห้องประชุมพนมนาคา ชั้น 5 อาคารสารสนเทศเพื่อการบริหาร สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนครพนม ได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่างมหาวิทยาลัยนครพนม โดย นายสมยศ สีแสนซุย รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม เป็นผู้แทน และ ผศ.ดร.วรวุฒิ อินทนนท์ คณบดีคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ร่วมเป็นพยาน กับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดย ดร.ณัฐพันธุ์ ศุภกา ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาภาคีสัมพันธ์และวิเทศสัมพันธ์ เป็นผู้แทน ข้อตกลงดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเชิงพื้นที่และสนับสนุนงานด้านวิชาการในการสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคีเครือข่ายสุขภาวะ (องค์กรที่รับทุน สสส.) ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้านการวิจัย การเรียนการสอน และการบริการวิชาการแก่สังคม

            ขอบเขตความร่วมมือประกอบด้วย 1) ความร่วมมือด้านการพัฒนาเชิงพื้นที่ โดยการสนับสนุนการบริการแก่สังคม การวิจัย และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม 2) การสนับสนุนงานวิชาการในการสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคีเครือข่ายสุขภาวะ (องค์กรที่รับทุนจาก สสส.) ในภาคอีสาน 3) สนับสนุนการวิจัย การสรุปบทเรียนการทำงานของภาคีเครือข่ายสุขภาะวะ-คอีสาน โดยความร่วมมือมีระยะเวลา 18 เดือน นับตั้งแต่วันที่ได้ลงนามทั้งสองฝ่าย และสามารถยกเลิกหรือต่ออายุข้อตกลงตามความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย

             เพื่อให้ข้อตกลงเกิดรูปธรรมและเกิดผลลัพธ์ ดังวัตถุประสงค์ของความร่วมมือ สสส.จึงได้สนับสนุนงบประมาณ เพื่อให้มหาวิทยาลัยนครพนม ดำเนินโครงการด้านบริการวิชาการแก่สังคม ภายใต้ชื่อโครงการเชื่อมประสานโครงการเชื่อมประสานภาคีเครือข่ายสุขภาวะ ภาคอีสาน วงเงินงบประมาณ 4,500,000 บาท มีเป้าหมายการสร้างเครือข่ายกลุ่มคนทำงานด้านสุขภาวะและสร้างความเข้มแข็งให้กับเครือข่าย ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีประเด็นขับเคลื่อน 6 ประเด็น ได้แก่ ประเด็นการจัดการขยะและสิ่งแวดล้อม ประเด็นเด็กและยาวชน ประเด็นสังคมสูงวัย ประเด็นสุขภาพจิต ประเด็นอาหารปลอดภัย และประเด็นแอลกอฮอล์และสิ่งเสพติด โดยอธิการบดีได้มอบอำนาจให้ ดร.คณิน เชื้อดวงผุย อาจารย์ประจำสาขาวิชาพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ

             การทำบันทึกข้อตกลงนี้ จึงเป็นการเปิดรับความร่วมมือของมหาวิทยาลัยนครพนม กับองค์กรภายนอกเพื่อสร้างความร่วมมือกับภาคีที่เกี่ยวข้องที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนเสริมการพัฒนาในเชิงพื้นที่ การบริการวิชาการให้กับสังคมและต่อยอดไปสู่งานวิจัยและการเรียนการสอนต่อไป